วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

HEALTH TODAY

ปัจจุบันนี้คนเรามีอายุขัยยาวขึ้นจึงเป็นโรคมะเร็งกันมากขึ้น การตรวจพบและรักษามะเร็งตั้งแต่ตอนที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นจะมีโอกาสหายจากโรคได้มากกว่าตอนที่เป็นมากแล้ว อาการและอาการแสดงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกว่าอาจจะมีมะเร็งเกิดขึ้นแล้ว เป็นสิ่งที่เตือนท่านว่าควรจะไปปรึกษาแพทย์เสียแต่เนิ่นๆ


อาการ (symptom) เป็นความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ เป็นสิ่งที่คนไข้รู้สึกอยู่ในตัว แล้วเอาไปบอกเล่าแก่แพทย์หรือผู้อื่น เช่น ปวดฟัน ปวดท้อง อ่อนเพลีย ซึมเศร้าฯลฯ ได้ ส่วนอาการแสดง(sign) หมายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เห็นได้ จับต้องได้ ฟังได้ยิน เช่น การไอเป็นเลือด กดเจ็บที่ท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง เป็นแผลไม่ยอมหาย ผอมลง ฯลฯ อาการและอาการแสดงเป็นสิ่งที่บ่งบอกโรคได้หลายอย่าง โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ท่านที่กลัวมะเร็งจึงควรใสใจในเรื่องนี้ไว้

มะเร็งทำให้เกิดอาการได้หลายอย่าง เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งอยู่ หรือจากขนาด หรือจากสารที่มันผลิตขึ้นมา หรือจากการกระจายของตัวมันเอง ฯลฯ

มะเร็งอาจจะโตขึ้นแล้วไปกดอวัยวะข้างเคียงทำให้เกิดอาการได้ เช่น กดเส้นประสาททำให้ปวด กดอวัยวะภายในท้องทำให้ปวดท้อง กดสมองทำให้เกิดอาการปวดหัว กดท่อน้ำดีทำให้เกิดอาการแสดงดีซ่าน (ตัวเหลืองตาเหลือง) แต่มะเร็งในบางอวัยวะเมื่อเริ่มขึ้นจะไม่ทำให้เกิดอาการจนกระทั่งโตเป็นก้อนใหญ่แล้ว เช่น มะเร็งตับ ส่วนมะเร็งตับอ่อนโดยทั่วไปตอนเริ่มต้นมักไม่มีอาการ (นอกจากจะเกิดขึ้นในที่ๆ ไปอุดท่อน้ำดีพอดีทำให้ดีซ่าน) เมื่อมีอาการ เช่น ปวดหลัง ก็มักจะเป็นมากแล้ว

มะเร็งอาจจะทำให้มีอาการ ไข้ อ่อนเพลีย หรือน้ำหนักลด